15 แนวคิดที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล ภายใน 5 นาที

15 แนวคิดเปลี่ยนชีวิต

15 แนวคิดเปลี่ยนชีวิต คุณไปตลอดกาล ภายใน 5 นาที

มีประโยคหนึ่งที่ถูกกล่าวออกมาโดย Helen Keller ว่า

People don’t like to think, if one thinks, one must reach conclusions. Conclusions are not always pleasant.

อธิบายได้ประมาณว่า คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการคิด ไม่ชอบการตั้งเป้าหมาย เพราะเมื่อคิด คาดหวังแล้ว ลงมือทำแล้ว บางครั้งสุดท้ายผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นดังที่หวังไว้ก็เป็นได้

ถ้าผมบอกว่ามีวิธีคิด 15 แบบที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของคุณไปตลอดกาลล่ะ? พร้อมนะ มาดูกันทีละข้อเลย

15 แนวคิดเปลี่ยนชีวิต

1: คิดใหญ่ แต่ให้เริ่มทำจากจุดเล็ก

ต้องการที่จะสร้างบริษัทใหญ่โตไหม? ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคุณหมู่มากไหม? ต้องการสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์กับคนทั้งโลกไหม? ต้องการเป็นเศรษฐีพันล้านไหม?

ซึ่งก็แน่นอน ทุกคน “อยาก” แต่มันจะไม่มีทางที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้เลย ถ้าเกิดเรามีความคิดบางอย่างแบบด้านล่างขวางกั้นตัวเองเอาไว้

มันยากเกินไป ทำไม่ได้หรอก

มันมีคนทำไปเรียบร้อยแล้ว เราสู้เขาไม่ได้หรอก

แล้วมีอะไรดีขึ้นไหมล่ะ? เราต้องวางเป้าหมายให้สูงเข้าไว้สิ ยังไงเราก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ความล้มเหลวก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเหมือนกัน แค่ให้แน่ใจว่าเราเริ่มทำจากสิ่งเล็กๆ หมั่นทำมันบ่อยๆ ให้คิดว่าสิ่งเดียวที่เราต้องการก็คือ เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ถ้เราาตั้งเป้าหมายไว้ต่ำเกินไป ผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบต่ำๆ เช่นกัน

2: ปัญหาต่างๆ ก็เป็นแค่คำถามที่ยังหาคำตอบไม่เจอ

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาคนเราชอบตื่นตระหนกเวลาเจอปัญหาใหญ่ๆ บางคนก็บอกว่า “มันเลวร้ายที่สุด ตั้งแต่เคยเจอมาแล้ว” ทุกครั้งๆ ที่เราใส่ความคิดเครียดๆ แบบนี้ ก็เหมือนกับการบั่นทอนชีวิตของเราเองไปเรื่อยๆ จนพังทลายลงไปในที่สุด ให้เราคิดแบบนี้แทนว่า

ปัญหามันก็แค่คำถามธรรมดาของชีวิต หรืออาจจะยากบ้าง ที่ยังหาคำตอบไม่เจอก็เท่านั้นเอง ให้เราใช้สติ พยายามหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น ก็เท่านั้นเอง

3: สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ให้มั่นคงด้วยความรัก

มีเหตุผลหลายๆ อย่าง ที่ทำให้มนุษย์ต้องออกไปแสวงหาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เช่น เรื่องเงิน ความกลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความต้องการให้คนอื่นสนใจในตัวเรา เป็นต้น ซึ่งไหนๆ มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่แล้ว ก็ให้มองมันในรูปแบบของ “ความรัก” ซะเลย เพราะเมื่อเรารักใครเข้าแล้ว เราก็คงไม่สามารถที่จะรู้สึกเกลียดเขาได้ในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นความมั่นคงของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้อื่นควรจะต้องมีพื้นฐานมาจาก ความรัก ความเคารพให้เกียรติ การเชื่อใจกัน ความอดทน เพื่อนร่วมงานที่ดี เสียงหัวเราะ

4: ไม่มีของฟรีในโลก

ไม่สำคัญว่าเราจะทำอะไร แต่บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ในชีวิตแน่ๆ เราต้องจ่าย “เงิน” หรือ “เวลา” โดยเฉพาะเวลาซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อแลกกับสิ่งที่เราต้องการ

ชีวิตคนเรามันก็เหมือนการทำธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งนักธุรกิจเก่งๆ เขาใช้เวลาที่มีอยู่ทุกนาทีอย่างคุ้มค่า ถามว่าเขาทำได้อย่างไร? ตอบได้ง่ายๆ เลย คือ เขา “ประเมิน” ว่าสิ่งไหนทำแล้วคุ้มกับเวลาที่เสียไป ถึงจะทำ และรู้จัก “ปฏิเสธ” ในสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วย เพราะการปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ถือเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่พวกเขาเหล่านี้จะทำเลยทีเดียว

5: อย่ากลัวที่จะตัดสินใจ

บางครั้งเราอาจจะคิดว่า การที่เราอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องตัดสินใจอะไรในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะทำให้เราปราศจากความผิดพลาด แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่อันตรายที่สุดก็คือการที่เราไม่ทำอะไรเลยเนี่ยแหละ เช่น การรอคอยคนอื่นมาทำแทน การผลัดวันประกันพรุ่ง การตั้งข้อสงสัยมากเกินไปแต่ไม่ลงมือทำ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ช่วยให้ประโยชน์กับชีวิตเราขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อถึงเวลา จงกล้าที่จะตัดสินใจ “เลือก” อย่างหนักแน่น ถึงแม้ถ้าท้ายที่สุดแล้วเราตัดสินใจผิด ก็ไปขอโทษ ขออภัยกัน และเลือกตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ยังดีเสียกว่าไม่ยอมตัดสินใจเสียอีก

6: เป็นผู้นำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ในบางครั้งคนเราเป็นผู้นำ บางครั้งก็เป็นผู้ตาม ตอนอยู่ที่ทำงานเราอาจจะเป็นผู้นำ และกลายเป็นผู้ตามเมื่อกลับถึงบ้าน ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเลย

เมื่อเรารู้ว่า อะไรผิด และพบว่าคนอื่นๆ หันไปมองรอบๆ เพราะไม่มีใครอยากที่จะรับผิดชอบในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณกล้าที่จะแบกความรับผิดชอบไว้ นั่นแหละ คุณคือผู้นำที่แท้จริง มันคือคุณ

7: มีความรู้สึกที่เป็นเจ้าของ ในสิ่งที่ตนทำอย่างภาคภูมิใจ

มีสิ่งเดียวเท่านั้น ที่ช่วยให้คุณจากการที่ไม่มีอะไรเลย เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ ก็คือ การทำงาน เพราะฉะนั้นแล้ว เวลาทำงานใดๆ ก็ตาม ให้ทำอย่างเต็มที่ มีความคิด ความรู้สึก เหมือนมันเป็นลูกของเรา แล้วผลลัพธ์จะออกมาอย่างดีเยี่ยมเอง

8: มองตัวเองเหมือนเป็นพนักงานขาย

จริงๆ แล้วทุกคนก็คือพนักงานขายนั่นแหละ อย่างเช่น เวลาคุณไปออกเดทกับหนุ่มหรือสาว คุณก็จะขายใสสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองทำ พยายามทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจในตัวคุณให้ได้ หรือในการสมัครงานก็เช่นกัน คุณต้องทำให้บริษัทเชื่อให้ได้ว่า ถ้าเขารับคุณเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ผิดหวัง

เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่คุณ “ขาย” จงทำตัวให้โปร่งใส ซื่อสัตย์ และเลือกเป้าหมายที่คุณจะ “ขาย” ให้ถูกด้วย ไม่ต้องไปเสียเวลากับคนที่ไม่ชอบคุณ การขายไม่ใช่การมานั่งคิดว่าจะมีคนที่ไม่ชอบสินค้าหรือตัวคุณมากน้อยแค่ไหน แต่เป็นการมองหาคนที่ใช่ต่างหาก

9: ถ้าอยากเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง จงหมั่นฝึกฝน

ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อย่าไปเสียเวลามากกับการหาแรงบันดาลใจจากที่อื่น เช่น หนังสือ โพส talk เป็นต้น

ให้จำไว้เลยว่า การที่คุณจะมีความมั่นใจในการทำสิ่งใดๆ มันเกิดจากเรียนรู้ ลงมือทำ วิเคราะห์ผลลัพธ์ นำมาปรับปรุงแก้ไข หลังจากนั้นก็วนลูปแบบเดิมไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะความมั่นใจนั้นมันจะค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ ทุกวัน นั่นเอง

10: ให้ความสำคัญกับมิตรสหาย

มนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ถ้าคุณอยู่ลำพัง คุณจะตายก่อนเป็นอันดับแรก คุณอาจจะคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็ได้ แต่สุดท้ายคุณก็พยายามผูกมิตรกับคนอื่นไปโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉะนั้นแล้ว จงให้ความสำคัญกับเพื่อน และยอมรับด้วยว่าเขาก็ต้องมีชีวิตในแบบของพวกเขาเช่นกัน

เมื่อระยะเวลาผ่านไป เมื่อความคิดของคุณโตมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และมีเวลาน้อยลง หลายสิ่งหลายอย่างแปรเปลี่ยนไป คุณเปลี่ยน ผู้คนเปลี่ยน แต่มิตรภาพระหว่างคุณกับเพื่อนเท่านั้นที่จะยังคงอยู่เช่นเดิม

11: อย่าเชื่อในทุกสิ่งที่เห็น

มนุษย์เราอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องการมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับยอมรับจากคนอื่น ซึ่งพวกเขาก็จะพยายามแสดงออกมาในสิ่งที่เราอยากเห็น หรือทำให้เขาดูดี

เพราะฉะนั้นแล้วอย่าเชื่อในทุกๆ เรื่องราวความสำเร็จของคนอื่นที่คุณได้พบเจอมา ไม่ว่าจะเป็น YouTubers, นางแบบต่างๆ ใน Instagram, เศรษฐีเงินล้านจากการทำธุรกิจ มันก็จริงอยู่ที่ว่า พวกเขาเหล่านั้นดูดี ไร้ที่ติ แต่จริงๆ แล้วคุณมองเห็นแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่คุณก็ห้ามไปมองพวกเขาในแง่ร้ายนะ แค่อย่าสนใจกับเปลือกนอกมากจนเกินไปก็พอ

12: เรียนรู้ที่จะรับฟังคำวิจารณ์

เวลามีใครก็ตามมาวิจารณ์คุณ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงที่ดีหรือไม่ดีก็ตามแต่ คุณควรจะขอบคุณเขา เพราะว่ามันเหมือนเป็นแหล่งพลังงานในการขับดันให้ชีวิตคุณก้าวต่อไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี

คุณสามารถที่จะนำคำวิจารณ์เหล่านั้นมาพัฒนาตัวคุณ ผลิตภัณฑ์ของคุณ บริการต่างๆ ของคุณ หรือถ้าในบางครั้งคำวิจารณ์เหล่านั้นมันฟังดูไร้สาระเหลือเกิน แน่นอนมันอาจทำให้คุณเกิดอาการหัวร้อนได้ แต่มันก็จะเป็นพลังให้คุณพิสูจน์ว่า นายนั่นแหละที่ไร้สาระ ได้เช่นกัน

13: ถ้าคุณดูแลสุขภาพตัวเองไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถดูแลอะไรได้เลย

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่คุณก็รู้อยู่เต็มอกว่า คนเราไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายเราให้ได้ดั่งใจ 100% เต็ม ทำได้ดีสุดก็แค่ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และอย่าใช้ร่างกายตัวเองหักโหมจนเกินไป พักผ่อนเสียบ้าง และไม่ใช่ว่าทำแค่ไม่กี่วันแล้วเลิก แต่ควรจะทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอด้วย ถ้าบอกว่า “เวลา” ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ “สุขภาพ” ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกเนอะ

14: จงเลือกที่จะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา

มีเพียงตัวคุณเองเท่านั้นที่ควบคุมความคิดของตนเองได้ ซึ่งมันส่งผลกับสิ่งที่คุณจะทำต่อไปในภายภาคหน้า ถ้าคุณเลือกที่จะไม่พอใจ โกรธ สิ้นหวัง นั่นแหละ คือ ตัวคุณเองในอนาคต

บางครั้งคนเราก็มีความคิดที่ว่า “ฉันไม่สามารถมีความสุขได้ ฉันต้องรวย ซื้อรถหรูๆ ขับ มีบ้านหลังใหญ่ๆ อยู่” แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย คุณสามารถที่จะมีความสุขได้ในทุกๆ ขณะของช่วงชีวิต มันขึ้นอยู่กับมุมมองชีวิตของคุณเองต่างหาก ว่าเลือกที่จะมองมันแบบไหน

15: สร้างบางสิ่งบางอย่าง

เมื่อคุณกำลังเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างในทางที่ดี ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นอะไร แต่คุณกำลังทำมันแล้วนี่ คุณอาจจะช่วยแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ ได้ หรือไม่ก็ให้ความบันเทิงกับพวกเขาเหล่านั้นได้ มองยังไงก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นแล้ว จงอย่ารอที่จะบริโภคข้อมูล สินค้า หรือความบันเทิงต่างๆ จากคนอื่นเพียงฝ่ายเดียว แต่ให้ลองสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อคนอื่นบ้าง ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำคนเดียวก็ได้ ทำกันเป็นคู่ เป็นกลุ่ม ก็ว่ากันไป ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณ หรือเพื่อนคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ขอแค่ทำตนเองให้มีประโยชน์ก็เพียงพอแล้ว

และนี่คือ 15 แนวคิดเปลี่ยนชีวิต คุณไปตลอดกาล ภายใน 5 นาที

LOVE - LIKE - SHARE